เปาะเปี๊ยะ

เปาะเปี๊ยะ ตำรับของว่างใน 5 แผ่นดินจีน

หากไปร้านอาหารไทย เวียดนาม หรือจีนก็ต้องมีเจ้าเมนูเปาะเปี๊ยะให้เห็นอยู่เสมอ หากย้อนดูประวัติศาสตร์ของเปาะเปี๊ยะพบว่าผ่านมาทุกแผ่นดินจีนตั้งแต่ราชวงศ์จิ้น ถัง ซ่ง หมิง และชิง (ตั้งแต่ปี 266 – 1912) แรกเริ่มในสมัยราชวงศ์วงจิ้น (ปี 266 – 420) หน้าตายังไม่ได้ม้วนเหมือนในปัจจุบัน แต่เป็นเพียงแป้งแผ่นบาง ๆ มีไส้ผักและผลไม้ และถูกให้เป็นของขวัญแก่สมาชิกในครอบครัว ต่อมาในสมัยราชวงศ์ถัง (ปี 618 – 907) เริ่มมีวิวัฒนาการเปลี่ยนไส้เปาะเปี๊ยะไปตามชนชั้น โดยคนร่ำรวยจะใส่ถั่วงอก ผักโขม วุ้นเส้น ไข่ ในขณะที่คนยากจนจะใส่เพียงแครอทและขึ้นฉ่าย เมื่อเข้าสู่ราชวงศ์ซ่ง (ปี 960 – 1279) มีการเสิร์ฟเปาะเปี๊ยะเป็นอาหารในพระราชวังฮ่องเต้ในฤดูใบไม้ผลิด้วยไส้ที่หรูหรามากขึ้น อย่างไรก็ตาม ลักษณะของเปาะเปี๊ยะก็ยังเป็นแป้งแผ่นบางเรียบ ๆ ไม่ได้ม้วนแต่อย่างใด จนกระทั่งเข้าสู่ราชวงศ์หมิง (ปี 1368 – 1644) มีการพัฒนาปรับเปลี่ยนสูตรจนกลายมาเป็น ‘แป้งม้วน’ จึงมีหลักฐานการจดบันทึกถึงอาหารที่มีลักษณะเหมือนเปาะเปี๊ยะเป็นครั้งแรกในยุคสมัยนี้ ต่อมาในราชวงศ์ชิง (ปี 1644 – 1912) เปาะเปี๊ยะถูกตั้งชื่อให้อย่างเป็นทางการว่า ‘ชุนจัง’ อันหมายถึงอาหารในฤดูใบไม้ผลิ
นอกจากนี้ ลักษณะการทำเมนูเปาะเปี๊ยะยังมีความหมายโดยนัยซ่อนอยู่ด้วย การม้วนด้วยแป้งทำให้สะดวกรับประทานง่าย หากแต่เบื้องหลังที่ซ่อนอยู่คือ ‘ความหมายมงคล’ (ไม่แปลกใจนักเพราะชาวจีนมักแฝงความหมายมงคลไว้ในทุกวิถีชีวิต) โดยเปาะเปี๊ยะจะมีการยัดไส้ด้วยกะหล่ำปลีและผักต่าง ๆ รวมกันนำมาม้วนและไปทอดทำให้มีลักษณะเหมือนทองคำแท่ง สื่อถึงความมั่งคั่งและเจริญรุ่งเรืองนั่นเอง เปาะเปี๊ยะถูกเผยแพร่ไปยังดินแดนต่างๆ และมีหลายชื่อเรียก เช่น เวียดนามเรียกว่า ก๋อย ก้วน (Gỏi cuốn) ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียเรียกว่า ลุมปียา (Lumpia) ในขณะที่เนเธอร์แลนด์เรียกได้ 2 แบบคือ loempia และ kroepia

วันนี้เรามีเว็บ แทงหวย ดีๆมาแนะนำให้ท่านได้รู้จักนั่นคือ เว็บรวย เว็บหวยออนไลน์อันดับหนึ่งในไทยนั่นเอง เว็บดีที่จ่ายเต็มไม่มีเลขอั้น เปิดรับแทงตลอด 24ชั่วโมง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *